Tuesday, August 5, 2008

Mac OS X เวอร์ชั่น 10.5 Leopard

นายโทนี่ ลี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ บริษัท แอปเปิ้ล เอเชีย กล่าวว่า “Mac OS X Leopard” เป็นระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ เบสตัวที่ 5 ในตระกูลเสือจากแอปเปิ้ลที่รองรับแอพลิเคชัน ทั้งแบบ 64 บิต และ 32 บิตด้วยวิชชวลเมมโมรี และทำงานแบบมัลติทาสก์กิ้งได้ โดยเลพเพิร์ดมีการเปลี่ยนแปลงภายในมากกว่า 300 รายการจาก Mac OS X Tiger เริ่มจาก Desktop ใหม่ของเลพเพิร์ดประกอบด้วยแถบ Dock 3 มิติที่ได้รับการออกแบบใหม่ เมื่อเปิดแอพลิเคชัน หรือหน้าต่างเงาของหน้าต่างนั่นจะสะท้อนกับพื้นของ Dock พร้อมวิธีใหม่ในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดายที่เรียกว่า “Stack” ผจก.ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ บ.แอปเปิ้ลฯ กล่าวต่อว่า เว็บไซต์ อีเมล์ และไฟล์ดาวน์โหลดอื่นๆ ที่เปิดบนหน้าเดสก์ท็อปไว้ใน Stack ที่ชื่อ Downloads เพื่อให้ หน้าจอดูสะอาดตา และผู้ใช้ยังแตกรายละเอียดของ Stack ดังกล่าว รวมถึง Stack อื่นๆ ให้เห็นในทรงโค้งจากแถบ Dock ได้ทันที อีกทั้งผู้ใช้ยังสร้าง Stack ของตัวเองเพื่อเก็บโฟลเดอร์ เอกสาร และโปรแกรมเพื่อความง่ายดายในการค้นหา ส่วน Finder รูปลักษณ์ใหม่จะประกอบด้วย Cover Flow และ Sidebar แบบใหม่ที่ช่วยให้ทั้งการค้นหา บราวซ์และคัดลอกไฟล์จากพีซี หรือเครื่องแมคที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันง่ายดายขึ้น คล้ายกับการใช้โปรแกรมไอทูนส์ (iTunes) ที่ผู้ใช้ไอพ็อด (iPod) นายโทนี ลี กล่าวถึงลูกเล่นใหม่ว่า ผู้ใช้งานสามารถค้นหาไฟล์ที่บรรจุอยู่ในคอมพิวเตอร์เครือข่ายเดียวกันได้ด้วย Spotlight บราวส์ได้ด้วย Cover Flow และคัดลอกไฟล์ได้โดยง่ายด้วยการ drag and drop ส่วนสมาชิก .Mac ก็สามารถใช้ลูกเล่น Back to My Mac แบบใหม่เพื่อเข้าดู และเข้าดูไฟล์ที่อยู่ในเครื่องแมคผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ด้วย และ Quick Look คือวิธีที่รวดเร็วและง่ายที่สุดในการเข้าดูไฟล์ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดตัวไฟล์ หรือโปรแกรมนั้นๆ ด้วยมุมมองเดียวกันกับที่ปรากฏใน Finder และ Spaces เพิ่มประสิทธิภาพใหม่ในการจัดการงานบนหน้าจอ แล้วสร้าง หน้าจอเพื่อใส่โปรแกรม และเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละส่วนๆ ผจก.ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ บ.แอปเปิ้ลฯ กล่าวถึงการสำรองข้อมูลว่า โปรแกรม Time Machine ให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในเครื่องแมค ค้นหาข้อมูลที่สูญหาย หรือแม้แต่กู้ซอฟต์แวร์กลับคืนมา Time Machine จะทำการบันทึกข้อมูล ณ ขณะนั้นโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่ไฟล์ใดก็ตามหายไป ผู้ใช้สามารถค้นหาไฟล์ โปรแกรม รูปภาพ หรือสื่อเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่ถูกลบไปแล้ว และกู้คืนกลับมาได้ทันที นอกจากนี้ Leopard ยังกู้ระบบทั้งหมดให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้จากข้อมูล Time Machine ที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์เชื่อมต่อภายนอกได้ด้วย
นายโทนี กล่าวอีกว่า Mail มาพร้อมกับรูปแบบที่สวยงามกว่า 30 แบบ ทำให้ผู้ใช้ส่งอีเมล์พร้อมกราฟฟิกและรูปสวยๆ ได้ง่ายๆ Notes และ To Dos ทำหน้าที่คล้ายอีเมล์ที่สร้างบันทึกเป็นฉบับร่าง ใช้ร่วมกับแมคหลายเครื่อง และจัดเก็บใน Smart Mailbox ได้ ส่วน Data Detector ค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ และเหตุการณ์สำคัญเพื่อจัดเก็บเพิ่มเติมใน Address Book หรือ iCal ได้ นอกจากนี้ยังเกาะติดข่าวสารล่าสุด ได้ด้วย RSS reader พร้อมทั้ง iChat ใหม่ช่วยให้การประชุมออนไลน์เป็นเรื่องง่ายดายขึ้น ด้วยภาพเคลื่อนไหวที่คมชัดผ่าน iChat Theater ยังมีลูกเล่นอย่าง Screen Sharing ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ที่อยู่ต่างสถานที่ใช้งานแมคอีกเครื่องได้ ผจก.ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ บ.แอปเปิ้ลฯ กล่าวถึงความสามารถใหม่อื่นๆ ในเลพเพิร์ด ว่า มีฟังก์ชันกลั่นกรองเนื้อห่าบนเว็บไซต์ โปรแกรม Boot Camp ฉบับสมบูรณ์ ทำให้สามารถใช้งานวินโดวส์บนเครื่องแมคที่ใช้ซีพียูของอินเทลได้หลังจากก่อนหน้านี้เป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง Front Row เวอร์ชันใหม่ การฟังเพลงและชมภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ รวมถึงภาพถ่ายบนเครื่องแมคเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วยการใช้ Apple Remote อีกทั้ง Dictionary พร้อมวิกิพีเดียทำให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลทุกหัวข้อได้ในพริบตา ลูกเล่นใหม่ของ Photo Booth ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง buddy icon แบบเคลื่อนไหวในโปรแกรม iChat หรือดัดแปลงรูปและเปลี่ยนฉากหลังสนุกๆ ด้วยภาพนิ่งหรือภาพวิดีโอ และ iCal ปรับปรุงใหม่ที่รองรับการบันทึกปฏิทินโดยผู้ใช้หลายคนได้ พร้อมทั้งมาตรฐาน CalDAV แบบใหม่และอื่นๆ อีกมากมาย
นายโทนี กล่าวด้วยว่า สำหรับราคาและกำหนดการวางตลาด Mac OS X เวอร์ชั่น 10.5 Leopard จะวางจำหน่าย ที่ ร้านตัวแทยจำหน่าแอปเปิ้ลไอสตูดิโอ ในราคา 5,690 บาท สำหรับ1 ยูสเซอร์ และ Mac OS X Leopard Family Pack ที่ให้สิทธิใช้งาน 5 คน ภายในครัวเรือนเดียวกัน จะวางจำหน่ายในราคา 8,590 บาท ส่วนแพ็คเกจอัพเดท Mac OS แบบมาตรฐาน จะวางจำหน่ายแบบเป็นทางการในราคา 330 บาท ทั้งนี้เครื่องแมคที่ใช้เลพเพิร์ดได้ต้องมี โพรเซสเซอร์ของอินเทล PowerPC G5 หรือ G4 (867 Mhz หรือเร็วกว่า) และมีหน่วยความจำไม่ต่ำกว่า 512 MB

No comments: